เที่ยวคิโนซากิออนเซ็น ห้ามพลาดสเต็กเนื้อวัวโคขุนแสนอร่อย

ในญี่ปุ่นมีออนเซ็นหลายแห่งมากมายไม่ว่าจะไปจังหวัดไหนก็เจอแต่ออนเซ็น รู้ไหมว่าออนเซ็นแต่ละที่นั้นไม่เหมือนกัน ต้นกำเนิดของออนเซ็นแต่ละที่แตกต่างกันทำให้จุดเด่นของออนเซ็นในแต่ละแห่งนั้นแตกต่างกัน ด้วยสาเหตุนี้ออนเซ็นที่มีชื่อชื่อเสียงจึงมีแต่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเองและชาวต่างชาติอยากลองไปแช่น้ำแร่ในออนเซ็นมากมาย

เมืองออนเซ็นที่ คิโนซากิออนเซ็น(Kinosaki Onsen)

เป็นออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นี่ติดอันดับออนเซ็น 100แห่งที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น คิโนซากิออนเซ็น(Kinosaki Onsen) ตั้งอยู่ภูมิภาคคันไซ จังหวัดเฮียวโกะ(Hyoko) เขตโทโยโอกะ(Toyoka) เมืองคิโนซากิ(Kinosaki) ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยเฮอัน ถ้านับจนถึงปัจจุบันนี้ก็ประมาณ 1,300กว่าปี จุดเด่นของเมืองออนเซ็นแห่งนี้คือออนเซ็นทั้ง 7แห่งที่ตั้งอยู่นอกเรียวกังที่พักสามารถเดินเล่นพักผ่อนและเลือกเข้าแช่น้ำแร่ในออนเซ้นต่างๆทั้ง 7แห่งได้ หรือใครจะเข้าทุกแห่งเลยก็ได้นะ

เมืองออนเซ็นนี้ถูกสร้างขึ้นให้อยู่ระหว่างสถานีคิโนซากิ(Kinosaki) กับแม่น้ำโอตานิ(Otanigawa) บริเวณริมแม่น้ำมีการปลูกต้นหลิวลู่ลมไว้เรียบๆเคียงๆแม่น้ำสร้างบรรยากาศอันแสนโรแมนติค ช่วงเวลาเย็นจะมีนักท่องเที่ยวที่มาเข้าพักในเมืองออนเซ็นแห่งนี้แต่งชุดยูกาตะออกมาเดินเล่นรับลมเย็นๆและถ่ายรูปกันมากมาย

คิโนซากิออนเซ็น 7บ่อ

ออนเซ็นที่มีชื่อเสียง 7บ่อที่อยู่ในคิโนซากิออนเซ็นแห่งนี้ คือ Ichinoyu, Goshonoyu, Satonoyu, Mandarayu, Yanagiyu, Jizoyu และ Konoyu ซึ่งบ่อแต่ละบ่อนั้นต่างมีจุดเด่นของแต่ละบ่อที่แตกต่างกัน

Ichinoyu นั้นถูกค้นพบมาตั้งแต่สมัยเอโดะเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของออนเซ็นแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ในสมัยเอโดะช่วงกลางสมัยได้มีผู้ค้นพบ Ichinoyu ซึ่งสมัยก่อนนั้นเรียกว่า Shinyu ต่อมาเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงว่าเป็นน้ำแร่ที่ดีที่สุดในโลกจึงมีการตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Ichinoyu

Goshonoyu เป็นบ่อน้ำแร่ที่เชื่อว่าจะช่วยให้สวยงามขึ้น, Yanagiyu เป็นบ่อน้ำแร่ที่เชื่อว่าเกิดอยู่ใต้ต้นยานากิซึ่งได้รับนำมาปลูกจากบริเวณทะเลสาบไซโกะจึงได้รับการตั้งชื่อให้ว่า Yanagiyu บ่อน้ำแร่ต่างๆที่มีชื่อเสียงทั้ง 7บ่อนี้ต่างมีประวัติความเป็นมาที่แตกต่างกันและมีจุดเด่นของน้ำแร่ที่ต่างกัน สามารถทดลองแช่น้ำแร่ได้ด้วยตัวเองและจะรู้ว่าต่างกันอย่างไร หากเข้าพักในที่พักบริเวณคิโนซากิออนเซ็นนี้ไม่ว่าที่พักใดก็ตามจะได้รับบัตรที่ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "Gaiyuichibansatsu" ซึ่งสามารถนำบัตรนี้แสดงตามออนเซ็นบ่อต่างๆเพื่อเข้าใช้บริการได้ฟรี

ผ่อนคลายกับชุดยูกาตะ

สามารถใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นรอบๆบริเวณเมืองออนเซ็นแห่งนี้ได้ ซึ่งเป็นที่กล่าวกันว่าการใส่ชุดยูกาตะและเดินเล่นรอบๆออนเซ็นนั้นเป็นการผ่อนคลายที่ดีที่สุด ทำให้ภาพลักษณ์ของที่นี่มีแต่คนแต่งชุดยูกาตะเดินเล่นด้านนอกเป็นส่วนใหญ่ ที่พักที่เป็นเรียวกังส่วนใหญ่จะมีการเตรียมชุดยูกาตะให้กับผู้ที่เข้าพัก นอกจากนี้บางเรียวกังยังเตรียมชุดยูกาตะที่มีสีสันต่างๆให้ได้เลือกใส่กันซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากสุภาพสตรีทุกท่าน เพราะสามารถเลือกสีที่ชอบมาใส่ได้อย่างลงตัวก่อนออกไปเดินเล่นข้างนอก

ที่พักที่ให้บริการชุดยูกาตะแนะนำ

โคยาโดะ เอ็น (Koyado En)

เป็นเรียวกังที่ให้บริการอาหารเลิศรส ให้บริการเนื้อวัวโขขุนทาจิมะ (Tajima Beef) นอกจากนี้ภายในที่พักยังมีคาเฟ่และบาร์ และมีชุดยูกาตะหลากหลายสีสันให้บริการ

การเดินทาง : จากสถานี JR Kinosaki Onsen (โดยรถไฟสาย JR Sanin main Line) เดินประมาณ 3นาที

กิงกะ (Ginka)

ได้ซ่อมแซมและเปิดให้บริการในปี 2012 บนพื้นที่กว่า 6,600ตารางเมตร มีห้องพัก 18ห้องซึ่งให้บรรยากาศที่หรูหรามีระดับ พร้อมให้บริการออนเซ็นและอาหารเลิศรส เป็นสถานที่พักผ่อนที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวแห่งหนึ่ง

การเดินทาง : จากสถานี JR Kinosaki Onsen (โดยรถไฟสาย JR Sanin main Line) นั่งรถแท็กซี่ประมาณ 10นาที สามารถใช้บริการรถรับส่งของทางที่พักได้โดยต้องจองก่อนล่วงหน้า (รายละเอียดเกี่ยวกับรถรับส่งสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้โดยตรงกับที่พัก)

ทาจิมะยะ (Kinosaki Onsen Tajimaya)

เป็นที่พักที่ออกแบบและตกแต่งเพื่อสุภาพสตรีหรือคู่รักในสไตล์โรแมนติกด้วยต้นไผ่ ถ่าน หิน โดยเน้นความเป็นญี่ปุ่นที่ผสมผสานกับยุคปัจจุบัน มีให้บริการชุดยูกาตะ สาเก(เหล้าญี่ปุ่น) และให้บริการออกนเซ็นส่วนตัวฟรี

การเดินทาง : จากสถานี JR Kinosaki Onsen (โดยรถไฟสาย JR Sanin main Line) เดินประมาณ 12นาที

สามารถใช้บริการออนเซ็นแบบส่วนตัวได้ฟรี

บ่อน้ำแร่นานายุในคิโนซากิออนเซ็นนั้นมีชื่อเสียงมาก แต่สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการความเป็นส่วนตัวไม่อยากเข้าแช่น้ำแร่ร่วมกับใครก็สามารถใช้บริการออนเซ็นแบบส่วนตัวได้ สามารถจองเวลาที่ต้องการใช้บริกการก่อนล่วงหน้าได้ ภายในเรียวกังมีบริเวณที่สามารถให้ใช้บริการได้ฟรี และบริเวณที่มีค่าใช้จ่าย แนะนำให้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ที่พักก่อนจอง ในบางครั้งจะมีแพลนที่พักพร้อมออนเซ็นส่วนตัวฟรี


โครัคคุเอ็น (Korakuen)

ที่พักตั้งอยู่บริเวณทานเข้าคิโนซากิออนเซ็น มีให้บริการอาหารเย็นซึ่งในฤดูร้อนสามารถรับประทานอาหารเมนูปลาและหอยที่สดใหม่และในฤดูหนาวจะสามารถรับประทานอาหารเมนูปูแสนอร่อยได้ ผู้ที่เข้าพักจะได้รับบัตรที่ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "Gaiyuichibansatsu" ซึ่งสามารถนำบัตรนี้แสดงตามออนเซ็นบ่อต่างๆในนานายุเพื่อเข้าใช้บริการได้ฟรี การชำระเงินค่าที่พักนั้นรับชำระเป็นเงินสดเท่านั้น

การเดินทาง : จากสถานี JR Kinosaki เดินประมาณ 7นาที หรือนั่งรถบัสสายด่วนมาจากโอซาก้าหรือโกเบลงที่ป้ายสุดท้าย "คิโนซากิออนเซ็น" จากนั้นเดินประมาณ 7นาที

คิโนะซาคิออนเซน คิระคุ (Kinosaki Onsen Hot Springs Kiraku)

เป็นที่พักที่อยู่ใจกลางคิโนซากิออนเซ็นสามารถเดินเล่นหรือแช่น้ำแร่ในบ่อต่างๆรอบๆได้อย่างสะดวก ภายในที่พักมีออนเซ็นส่วนตัวให้บริการ 2แห่ง ที่พักมีบริเวณที่สามารถทำแก้วเผาใส่ลวดลายต่างๆได้

การเดินทาง : จากสถานี JR Kinosaki Onsen (โดยรถไฟสาย JR Sanin main Line) เดินประมาณ 10นาที มีรถรับส่งให้บริการซึ่งจำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้า

นารูยะ เรียวกัง (Naruya Ryokan)

มีออนเซ็นที่ไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาภายในที่พัก ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องอาหารเมนูปูซึ่งจะให้บริการตามฤดูกาล นอกจากนี้ผู้ที่เข้าพักจะได้รับบัตรที่ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "Gaiyuichibansatsu" ซึ่งสามารถนำบัตรนี้แสดงตามออนเซ็นบ่อต่างๆในนานายุเพื่อเข้าใช้บริการได้ฟรี

การเดินทาง : จากสถานี JR Kinosaki Onsen (โดยรถไฟสาย JR Sanin main Line) เดินประมาณ 6นาที

เนื้อวัวทาจิม่า (Tachima Beef)

เนื้อวัวทาจิม่านั้นเรียกได้เป็นเนื้อวัวโคขุนญี่ปุ่นที่มีแบรนด์ดังชื่อหนึ่งในญี่ปุ่น สมัยก่อนวัวสายพันธุ์นี้อยู่ในจังหวัดเฮียวโกะโดยถูกเลี้ยงไว้เพื่อใช้งานและขนสัมภาระ หลังจากยุคสมัยเมจิเริ่มมีการรับประทานเนื้อวัว และเนื้อวัวทาจิม่านั้นได้รับการรับประทานเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเนื้อวัวสายพันธุ์แท้ที่ไม่รับการผสมข้ามพันธุ์ ทำให้กลายเป็นแบรนด์ของเนื้อวัวที่มีชื่อเสียงตลอดมา นอกจากนี้ยังมีวัวดำที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อรับประทานเป็นวัวสายพันธุ์ทาจิม่า

ในปัจจุบันวัวสายพันธุ์ทาจิม่าได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพของเนื้อ จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งออกลูกวัวที่ได้รับการเลี้ยงดูประมาณครึ่งปีและส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆในประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้สร้างเป็นแบรนด์เนื้อวัวสายพันธุ์ต่างๆ เช่น เนื้อวัวมัตสึซากะ เนื้อวัวโออูมิ เป็นต้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวสายพันธุ์ใดก็ตามจะมีสายพันธุ์ที่มีคุณภาพอย่างเนื้อวัวทาจิม่าผสมอยู่

เพื่อนๆที่เดินทางมายังคิโนซากิออนเซ็นแล้วก็อย่าพลาดที่จะทาน "เนื้อวัวทาจิม่า" กันให้ได้นะ ที่พักภายในคิโนซากิออนเซ็นที่ให้บริการเนื้อวัวทาจิม่ามีหลายๆแห่ง ดังนี้


คิโนะซากิออนเซน นิชิมุระยะ โฮเทล โชเง็ทสึเท (Kinosaki Onsen Nishimuraya Hotel Shogetsutei)

จากที่พักสามารถชมวิวที่งดงามของสวนกว้างซึ่งมีพื้นที่กว่า 165,000ตารางเมตรเป็นฉากหลัง ที่นี่เป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นส่วนตัว

การเดินทาง :  จากสถานี JR Kinosaki Onsen (โดยรถไฟสาย JR Sanin main Line) นั่งรถไมโครบัสต่อประมาณ 10นาทีและลงที่หน้าที่พัก

ยูโทยะ เรียวกัง (Yutoya Ryokan)

ให้บรรยากาศเมืองออนเซ็นซึ่งที่พักตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 6,600ตารางเมตร มีสวนญี่ปุ่นและออนเซ็นซึ่งสามารถชมวิวที่สวยงามของสวนได้ นอกจากนี้ยังมีให้บริการอาหารในรูปแบบไคเซกิซึ่งจะเปลี่ยนแปลงเมนูไปตามฤดูกาลต่างๆ

การเดินทาง : จากสถานี JR Kinosaki Onsen (โดยรถไฟสาย JR Sanin main Line) เดินประมาณ 7นาทีหรือนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 3นาที

คิโนะซากิ ออนเซ็น นิชิมุระยะ ฮอนคัง (Kinosaki Onsen Nishimuraya Honkan)

ที่พักสร้างในสไตล์ญี่ปุ่นแบบเรียบๆ จากห้องพักสามารถชมความสวยงามของสวนญี่ปุ่นได้ นอกจากนี้ยังมีให้บริการอาหารในรูปแบบไคเซกิซึ่งจะเปลี่ยนแปลงเมนูไปตามฤดูกาลต่างๆ

การเดินทาง : มีให้บริการรถรับส่งฟรี สามารถขึ้นรถได้ที่สถานี Kinosaki Onsen ไม่จำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้า
จากสถานี Kinosaki Onsen เดินประมาณ 15นาทีหรือนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 5นาที

นาโกมิ โนะ ยาโดะ โอกาว่า (Nagomi no Yado Ookawa)

ที่พักใกล้กับสถานี Kinosaki Onsen สามารถเดินเพียง 5นาที บริเวณรอบๆมีต้นหลิว(ต้น Yanagi)เรียงรายอยู่ จากที่พักสามารถเดินไปยังบ่อแช่น้ำแร่ Sato no Yu ได้เพียง 3นาที นอกจากนี้ยังมีให้บริการอาหารเย็นอีกด้วย

การเดินทาง : จากสถานี JR Kinosaki Onsen (โดยรถไฟสาย JR Sanin main Line) เดินประมาณ 5นาที